ใบงานที่ 7 รู้จักกับ DOS

ใบงานที่ 6

คำชี้แจง  :  จงหาคำตอบแล้วเขียนคำตอบใส่ลงไปใน blog ของตนเอง 1.ให้นักเรียนเขียนชื่อซอฟต์แวร์ระบบ 1.1 เครื่องไอบีเอ็มพีซี(IBM PC) 1.2 ไอบีเอ็ม คอมแพททิเบิล(IBM Compatible)  1.3 วินโดวส์ 95 (Windows 95) 1.4 วินโดวส์เอ็นที(Windows NT) 2.ให้นักเรียนเขียนชื่อโปรแกรมแบบ Package Program ทั้ง 8 ประเภท มาประเภทละ 1 โปรแกรม 2.1 โปรแกรมทางด้าน Word Processor ได้แก่ การม้วนคำ (Word Wrap)  2.2 โปรแกรมทางด้าน Spreadsheet  ได้แก่ Microsoft Excel 2.3 โปรแกรมทางด้าน Database ได้แก่ Microsft Access 2.4 โปรแกรมทางด้าน Graphic ได้แก่ Freelance Graphic 2.5 โปรแกรมทางด้าน (Game) ได้แก่ CBNFK 3D 2.6 โปรแกรมทางด้านการสร้างสถานการณ์จำลอง ได้แก่ Simulation 2.7 โปรแกรมทางด้านการการสื่อสาร ได้แก่ MSN 2.8 โปรมแกรมคอมพิวเตอร์ ได้แก่ Flash 3. ให้นักเรียนอธิบายข้อแตกต่างระหว่างซอฟต์แวร์ระบบและซอฟต์แวร์ประยุกต์ 3.1  ซอฟต์แวร์ระบบจะเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบและหน้าที่การทำงาน ส่วนซอฟต์แวร์ประยุกต์ จะเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้3.2   ซอฟต์แวร์ระบบจะรับข้อมูลจากแผงแป้นอักขระแล้วแปลความหมายให้คอมพิวเตอร์เข้าใจส่วนซอฟต์แวร์ประยุกต์จะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง 3.3  ซอฟต์แวร์ระบบจะเป็นซอฟแวที่ได้มาตราฐาน นิยมใช้กันทั่วไป โดยเฉพาะในธุรกิจต่างๆที่ต้องการความแน่นอนส่วนซอฟต์แวร์ประยุกต์จะนำมาประยุกต์โดยตรงกับงานทางธุรกิจบางอย่างไม่ได้  3.4 ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์ระบบ เครื่องไม่สามารถทำงานได้ แต่ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์ประยุกต์ เครื่องก็ยังสามารถทำงานได้

ใบงานที่ 6

คำชี้แจง  :  จงหาคำตอบแล้วเขียนคำตอบใส่ลงไปใน blog ของตนเอง

1.             ให้นักเรียนเขียนชื่อซอฟต์แวร์ระบบ

1.1 เครื่องไอบีเอ็มพีซี

1.2 ไอบีเอ็ม คอมแพททิเบิล

1.3 วินโดวส์ 

1.4 วินโดวส์เอ็นที

2.             ให้นักเรียนเขียนชื่อโปรแกรมแบบ Package Program ทั้ง 8 ประเภท มาประเภทละ 1 โปรแกรม

2.1. โปรแกรมทางด้าน Word Processor  ได้แก่ Microsoft Word 2007

2.2 โปรแกรมทางด้าน Spreadsheet  ได้แก่ Microsoft Excel 2007

2.3. โปรแกรมทางด้าน Database ได้แก่ Microsoft Access 2007

2.4. โปรแกรมทางด้าน Graphic ได้แก่ Photoshop

2.5. โปรแกรมเกม ( Game) ได้แก่ Dota-Allstar

2.6. โปรแกรมทางด้านการสร้างสถานการณ์จำลอง ได้แก่ เกมเถ้าแก่น้อย

2.7. โปรแกรมทางด้านการติดต่อสื่อสาร ได้แก่ Microsoft Office Outlook 2007

2.8. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ได้แก่ Toolbook

3.             ให้นักเรียนอธิบายข้อแตกต่างระหว่างซอฟต์แวร์ระบบและซอฟต์แวร์ประยุกต์

3.1 ซอฟต์แวร์ระบบ เขียนด้วยชุดคำสั่งที่เขียนด้วยภาษาที่ไม่ใช่ภาษาเครื่อง  แต่ซอฟต์แวร์ประยุกต์เขียนด้วยภาษาเครื่อง

3.2  ซอฟต์แวร์ระบบ เป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทผู้ผลิตสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จัดการกับระบบ แต่ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กับงานด้านต่าง ๆ

3.3 ซอฟต์แวร์ระบบ ทำหน้าที่ดำเนินงานพื้นฐานต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ แต่ซอฟต์แวร์ประยุกต์ใช้กับงานคอมพิวเตอร์แบบกว้างขวางและแพร่หลาย

3.4  ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์ระบบ เครื่องไม่สามารถทำงานได้ แต่ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์ประยุกต์ เครื่องก็ยังสามารถทำงานได้

ดาวิด บีญ่า ( David Villa )

หนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดของสเปนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คงจะต้องมีชื่อของ ดาวิด บีญ่า รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับบาเลนเซียในฤดูกาล


เพชรฆาตแดนกระทิงดุ นาม ดาวิด บีญ่า


      ข้อมูลส่วนตัว 
      ชื่อ : ดาวิด บีญ่า ซานเชซ
      วันเกิด : 3 ธันวาคม 1981
      เกิดที่ : ลันเกรโอ, อัสตูเรียส ประเทศสเปน
      ครอบครัว : แต่งงานแล้วกับ แพทริเซีย ลูกสาวชื่อ เซด้า เกิดวันที่ 7 ธันวาคม2005
      ตำแหน่ง : กองหน้า
      ส่วนสูง : 175 ซม.
      ฉายา : El Guaje(แปลว่าเจ้าหนู ในภาษา Astrian)
      สโมสรปัจจุบัน : บาเลนเซีย
      หมายเลขเสื้อ : 7

      สโมสรอาชีพ (นับเฉพาะสถิติในลีก) 
      2000 - 2003: สปอร์ติ้ง กิฆอน
      2003 - 2005: รีล ซาราโกซ่า
      2005 - ปัจจุบัน: บาเลนเซีย

      ทีมชาติ 
      2005 - ปัจจุบัน : สเปน



     เจ้าของสมญานาม El Guaje (แปลว่าเจ้าหนู ในภาษา Astrian) เป็นหัวหอกที่เปี่ยมไปด้วยทักษะและสัญชาตญาณของการพังประตู การจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ความเร็วและความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นการยิงด้วยเท้าและลูกกลางอากาศที่ทำได้ดีไม่แพ้กัน ก็ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทั้งสโมสรและทีมชาติได้อย่างรวดเร็ว

     บีญ่า เริ่มต้นการเล่นอาชีพเมื่อปี 1991 กับ ยูพี ลันเกรโอ ซึ่งเป็นทีมในบ้านเกิด ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมสปอร์ติ้ง กิฆอน ในปี 1999 และประเดิมเกมในระดับลีก้า 2 ในฤดูกาล 2000-01 จากนั้น รีล ซาราโกซ่า ก็ได้หยิบยื่นโอกาสให้เขาได้สัมผัสประสบการณ์ในเกมระดับลา ลีก้า เป็นครั้งแรกในปี 2003

     ระหว่างที่ค้าแข้งกับ ซาราโกซ่า เป็นเวลา 2 ฤดูกาล บีญ่า ก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ ด้วยการเฉือนรีล มาดริด และ สแปนิช ซูเปอร์คัพ ในปี 2004 ด้วยการเอาชนะ บาเลนเซีย เจ้าของแชมป์ลา ลีก้า ไปได้อย่างพลิกความคาดหมาย



     ด้วยฟอร์มการถล่มประตูที่เฉียบขาด ทำให้ "เจ้าค้างคาว" ยอมทุ่มเงิน 600 ล้านบาท (ประมาณ 12 ล้านยูโร) เพื่อดึงตัว บีญ่า มาร่วมทีมในปี 2005

     ในฤดูกาล 2004-05 บีญ่าก็ตอบแทนค่าตัวได้คุ้มค่าทุกเซนต์เมื่อทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการทำ 25 ประตูจากการลงสนาม 35 นัดในลีก จะเป็นรองก็แค่ ซามูแอล เอโต้ ดาวยิงของบาร์เซโลน่า ที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดลา ลีก้า เพียงคนเดียวเท่านั้น โดย เขาสร้างความฮือฮาด้วยการกดแฮตทริกแรกให้บาเลนเซีย ด้วยการใช้เวลาเพียง 5 นาที ในเกมที่บุกไปเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 3:0 เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา

     จากการทำประตูที่คงเส้นคงวาทำให้มีหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปจ้องที่จะคว้าตัวหัวหอกวัย 25 ปีไปล่าตาข่าย ซึ่งรวมถึง เชลซี แชมป์พรีเมียร์ชิพ 2 สมัย แต่ บาเลนเซีย ก็ไม่คิดที่จะปล่อยเสาหลักของทีมรายนี้ไปง่ายๆ จึงได้จับต่อสัญญาอยู่โยงในถิ่นเมสตาญ่า สเตเดี้ยม ไปจนถึงปี 2013



     ในส่วนของทีมชาติ บีญ่า ก็มีผลงานที่น่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดย อดีตนักเตะตัวหลักของทีมชาติสเปน ชุดยู-21 เลื่อนขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับ ซาน มาริโน่ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2005 นอกจากนั้น ยังช่วยทำยิงประตูในเกมเพลย์ออฟ ฟุตบอลโลก ที่พบกับ สโลวาเกีย ด้วย

     หลังจากที่ช่วยพาทีมกระทิงดุผ่านเข้ามาร่วมฟาดแข้งในรอบสุดท้ายที่ประเทศเยอรมันแล้ว บีญ่า ดาวยิงตัวเก่งของบาเลนเซีย ก็ยิงได้ 2 ประตูในนัดที่พบกับ ยูเครน และยิงจุดโทษในเกมที่พ่าย ฝรั่งเศส 1:3 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะปิดฉากฟุตบอลโลกครั้งแรกด้วยการทำ 3 ประตู

     และในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 ดาวิด บีญ่า ก็ตอกย้ำความเป็นสุดยอดกองหน้าแห่งยุคคนหนึ่ง โดยในนัดที่ สเปนพบ รัสเซีย บีญ่า ได้ลงเป็น 11 คนแรก และเป็นผู้สังหาร 3 ประตูเป็นแฮตทริคให้กับตัวเอง และเป็นแฮตทริคแรกของทัวร์นาเมนต์ มีส่วนช่วยให้ ทัพกระทิงดุ เอาชนะรัสเซียไป 4:1

อัศวินโต๊ะกลม

อัศวินโต๊ะกลม (อังกฤษ: Knights of the Round Table) เป็นชื่อกลุ่มคนที่ได้รับแต่งตั้งเกียรติยศอย่างสูงสุดในราชสำนักของกษัตริย์อาเธอร์ ในชุดตำนานที่ปรากฏในตำนานแห่งบริเตน โต๊ะกลมอันเป็นโต๊ะประชุมของพวกเขานั้นสร้างขึ้นเพื่อสื่อถึงความเท่าเทียมกันของสมาชิกทุกคน ไม่มีด้านหัวหรือด้านท้าย วรรณกรรมเกี่ยวกับกษัตริย์อาเธอร์แต่ละเรื่องอาจจะกล่าวถึงจำนวนอัศวินที่ไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 12-150 คน หรือมากกว่านั้น สำหรับ Winchester Round Table ซึ่งบันทึกในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1270 มีรายชื่ออัศวินทั้งสิ้น 25 คน

[แก้]รายชื่ออัศวิน

ต่อไปนี้เป็นรายชื่ออัศวินที่สำคัญของโต๊ะกลม

• เซอร์อกราไวน์หลานของเซอร์กาเวนเสียชีวิตจากการขวางแลนสล็อต
• เซอร์ดราโกเน่
• เซอร์แอนเซล์ม
• กษัตริย์แบกเดอมากัส
• เซอร์เบดิเวียร์ ผู้ขว้างดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ลงในทะเลสาบคราวที่อาเธอร์สิ้นชีพ
• เซอร์บอร์ส กษัตริย์แห่งกานนส์ (กอล)เป็นอัศวินที่รอดชีวิตในศึกครั้งสุดท้าย และเป็นเพื่อนสนิทของเซอร์แลนสล็อต
• เซอร์คาลาดอค
• เซอร์คอนสแตนติน บุตรแห่งคาดอร์ ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์หลังจากอาเธอร์สิ้นชีพ
• เซอร์วอริค บุตรของทริสโทเนีย และดีแลน
• เซอร์เอคเตอร์ พ่อบุญธรรมของอาเธอร์ และพ่อของเซอร์เคย์
• เซอร์เอเรค
• เซอร์กาเฮรีส หลานของเซอร์กาเวนเสียชีวิตจากการขวางแลนสล็อต
• เซอร์กาลาฮัด นามที่คนส่วนใหญ่รู้จักคืออัศวินศักดิ์สิทธิ์ บุตรของลันซล็อต เป็นผู้สำเร็จในการอัญเชิญจอกศักดิ์สิทธิ์
• เซอร์กาเลโฮต์ เพื่อนของลันซล็อต
• เซอร์กาเร็ธ หลานของเซอร์กาเวน เสียชีวิตจากการขวางแลนสล็อต
• เซอร์กาเวน 1ในอัศวินที่ยอดเยี่ยมที่สุด เสียชีวิตเพราะเซอร์มอเดร็ด
• เซอร์กินกาไลน์ เดิมชื่อเซอร์ เลเบล อินคอนนู บุตรของกาเวน
• เซอร์กริฟเล็ต
• เซอร์เคย์ บุตรของเอคเตอร์
• เซอร์ลันซล็อตอัศวินที่เก่งกาจที่สุดและเป็นชนวนของโศกนาฏกรรม รัก 3 เศร้า
• กษัตริย์ลีโอเดอกรังซ์ บิดาของกุยนิเวียร์ และเป็นผู้พิทักษ์โต๊ะกลม
• เซอร์ไลโอเนล
• เซอร์มอร์เดร็ด ลูกนอกสมรสของอาเธอร์ และผู้ทำลายอาณาจักร
• เซอร์เพอร์ซิวาล 1ในผู้ที่สำเร็จในการอัญเชิญจอกศักดิ์สิทธิ์พร้อมเซอร์กาลาฮัด
• เซอร์ทริสทัน อัศวินที่เก่งกาจที่สุดเป็นอันดับ3 และเป็นเจ้าของตำนานรักแสนเศร้ากับ เจ้าหญิงไอโซเด้
• กษัตริย์อูเรียน
• เซอร์ราโมแรค
• เซอร์ยไวน์ บุตรของอูเรียนแห่งกอร์

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ( Albert Einstein )

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (เยอรมัน: Albert Einstein) (14 มีนาคม พ.ศ. 2422 - 18 เมษายนพ.ศ. 2498) เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิวที่มีสัญชาติสวิสและอเมริกัน (ตามลำดับ) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2464 จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก "การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี"

หลังจากที่ไอน์สไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ในปี พ.ศ. 2458 เขาก็กลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยธรรมดานักสำหรับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ในปีต่อ ๆ มา ชื่อเสียงของเขาได้ขยายออกไปมากกว่านักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์ ไอน์สไตน์ ได้กลายมาเป็นแบบอย่างของความฉลาดหรืออัจฉริยะ ความนิยมในตัวของเขาทำให้มีการใช้ชื่อไอน์สไตน์ในการโฆษณา หรือแม้แต่การจดทะเบียนชื่อ "อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์" ให้เป็นเครื่องหมายการค้า

ตัวไอน์สไตน์เองมีความระลึกถึงผลกระทบทางสังคม ซึ่งมีผลมาจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์อย่างลึกซึ้ง ในฐานะที่เขาได้เป็นปูชนียบุคคลแห่งความบรรลุทางปัญญา เขายังคงถูกยกย่องให้เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่มีอิทธิพลต่อวิทยาศาสตร์ที่สุดในยุคปัจจุบัน ทุกการสร้างสรรค์ของเขายังคงเป็นที่เคารพนับถือ ทั้งในความเชื่อในความสง่า ความงาม และความรู้แจ้งเห็นจริงในจักรวาล (คือแหล่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจในวิทยาศาสตร์ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่) เป็นสูงสุด ความชาญฉลาดเชิงโครงสร้างของเขาแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบของจักรวาล ซึ่งงานเหล่านี้ถูกนำเสนอผ่านผลงานและหลักปรัชญาของเขา ในทุกวันนี้ ไอน์สไตน์ยังคงเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังที่สุด ทั้งในวงการวิทยาศาสตร์และนอกวงการ

ไอน์สไตน์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2498 ด้วยโรคหัวใจ

ผลงานของไอน์สไตน์ในสาขาฟิสิกส์มีมากมาย ต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่ง:

• ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ซึ่งนำกลศาสตร์มาประยุกต์รวมกับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
• ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นไปตาม equivalence principle
• วางรากฐานของจักรวาลเชิงสัมพัทธ์ และค่าคงที่จักรวาล
• ขยายแนวความคิดยุคหลังนิวตัน สามารถอธิบายจุดใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดของดาวพุธได้อย่างลึกซึ้ง
• ทำนายการหักเหของแสงอันเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงและเลนส์ความโน้มถ่วง
• อธิบายการเกิดปรากฏการณ์ของแรงยกตัว
• ริเริ่มทฤษฎีการแกว่งตัวอย่างกระจายซึ่งอธิบายการเคลื่อนที่ของบราวน์ของโมเลกุล
• ทฤษฎีโฟตอนกับความเกี่ยวพันระหว่างคลื่น-อนุภาค ซึ่งพัฒนาจากคุณสมบัติอุณหพลศาสตร์ของแสง
• ทฤษฎีควอนตัมเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของอะตอมในของแข็ง
• Zero-point energy
• อธิบายรูปแบบย่อยของสมการของชเรอดิงเงอร์
• EPR paradox
• ริเริ่มโครงการทฤษฎีแรงเอกภาพ

ไอน์สไตน์ได้ตีพิมพ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์มากกว่า 300 ชิ้น และงานอื่นที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกกว่า 150 ชิ้น^[1][2] ปี พ.ศ. 2542 นิตยสารไทมส์ ยกย่องให้เขาเป็น "บุรุษแห่งศตวรรษ" ผู้เขียนชีวประวัติของเขาเอ่ยถึงเขาว่า "สำหรับความหมายในทางวิทยาศาสตร์ และต่อมาเป็นความหมายต่อสาธารณะ ไอน์สไตน์ มีความหมายเดียวกันกับ อัจฉริยะ"^[3]